Cover photo

influener, แหล่งข่าว หรือ ที่ปรึกษาการลงทุน(มืออาชีพและสมัครเล่น) เวลามีผลงาน ย่อมต้อง “เคลม” เพื่อความก้าวหน้ารวมถึงชื่อเสียงด้วย

การพิจารณา คำเคลม และป้องกันจากการโดนล่อลวง

influener, แหล่งข่าว หรือ ที่ปรึกษาการลงทุน(มืออาชีพและสมัครเล่น) เวลามีผลงาน ย่อมต้อง “เคลม” เพื่อความก้าวหน้ารวมถึงชื่อเสียงด้วย

การเคลมเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ติดตามได้ประโยชน์
เพราะการตามคนมีผลงานดีมักได้
ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอย่างน้อยก็รู้ว่ามีประสบการณ์

💡อย่างไรก็ดีแอดนาโนสังเกตว่า

วิธีเคลมของที่ปรึกษาการลงทุนมืออาชีพ กับ
crypto influencer จะต่างกันมากๆๆๆๆๆๆๆ

👉ที่ปรึกษาการลงทุนมืออาชีพ เคลมได้ยากกว่า
influe คริปโตมาก เพราะอะไรมาดูกัน

นักลงทุนอย่างเราๆ อ่านไว้จะได้ดูและ
เปรียบเทียบแหล่งข่าวได้ดีขึ้น

thread นี้ เขียนขึ้นเพื่อ เป็นแนวทางให้เรามี ecosystem ที่แข็งแกร่งขึ้น (นักลงทุนพิจารณาข่าวสารได้ดีขึ้น และ influe มีคอนเท้นที่ดีกว่าเดิม)

disclaimer:
- ตัวอย่างที่ไม่ดี พบเห็นได้ทั่วไปจาก influencer ต่างชาติ ไม่ได้พาดพิงใคร
- บางคนที่ทำเหมือนตัวอย่างไม่ดี จริงๆเค้าอาจจะมีเจตนาดีก็ได้
- เนื้อหาจากประสบการณ์ของแอดนาโนเอง
(รู้เรื่อง finance บ้าง แต่ไม่ได้ทำงาน field นี้) ผิดหรือมีเพิ่มเติมตรงไหน เสริมมาได้นะครับ หลายๆอันเพื่อนๆก็รู้อยู่แล้วแหละ

1⃣ เคลมเป็นราย asset แทนที่จะเป็น Portfolio

ที่ปรึกษาการลงทุนมืออาชีพ มักจะวิเคราะห์
ความเสี่ยงและเป้าการลงทุนของแต่ละคน
(แน่นอนว่า influencer ไม่ได้ทำแบบนั้น ซึ่งก็เข้าใจได้)

แล้วจัดเป็น portfolio
เวลาเคลมผลงาน ก็เคลมเป็นพอร์ต
ไม่ได้เคลมรายตัว

asset แต่ละตัว ความเสี่ยงต่างกัน ก็หวัง
expected return ต่างกัน
ตอนเคลมผลงาน ก็จะดูพอร์ตรวมๆ จากรูปคือ 15%
ไม่ใช่โม้เรื่อง Netflix 20% แต่ไม่พูดถึง Apple 8% (หรือข้ามตัวที่ขาดทุน)

เปรียบเทียบกับชาว crypto

เราจะเห็นกลับกัน

ในรูปสมมติพอร์ตกำไร 1.37x
แต่เราจะโม้ว่า "บอกให้ซื้อ LEO กำไร
10x เลย เปนไงล่ะ"
โดยที่ข้ามตัวอื่นๆที่ขาดทุน หรือกำไรน้อย

2⃣ มีเป้าให้เคลมเยอะเกินไป

ที่ปรึกษาการเงินอาจจัด asset ไม่มากกว่า <30 ตัวในพอร์ตที่มีจุดประสงค์ใดประสงค์หนึ่ง
เช่น

- พอร์ตเพื่อค่าส่งลูกเรียนเมืองนอก มักประกอบจากหุ้นที่ไม่ค่อยเสี่ยง
- แล้วก็มีพอร์ตสำหรับเสี่ยงแยกไป

asset 10 ตัวก็อาจจะเยอะแล้ว track ไม่ไหวกัน
ถ้ามากไปมีตัวไหน moon ก็ส่งผลกับพอร์ตน้อย

ชาวหุ้นมักเจอข่าวเชียร์หุ้นมากมายทุกวัน
เพราะแหล่งข่าวอย่าง influencer และ สำนักข่าว
ก็ให้ความรู้และบอกจุดเด่นของแต่ละโปรเจคอย่างต่อเนื่อง
(ซึ่งถือเป็นเรื่องดีนะครับ ให้ความรู้📕📚🙇‍♂)

👉 ชาวคริปโตจะได้รับการกระตุ้นมากกว่านั้น
เพราะเรามีโปรเจคมากมาย รวมถึง มีม
ที่เกิดขึ้นรัวมาก

👉 โปรดสังเกตว่ายิ่งให้ความรู้เท่าไหร่
ยิ่งเคลมได้เท่านั้น โลกคริปโตมันไว ถ้าชี้เป้า
อาทิตย์ละ 10 ตัว 52week = 520 ตัว
มีให้เคลมไม่หวาดไม่ไหว

สิ่งที่ influencer/สำนักข่าว ให้ความรู้ก็ถูกอยุ่แล้ว อันนี้มองว่า ปรับเนื้อหาอย่างไรให้เป็นประโยชน์กับ followers มากที่สุดละกันนะครับ

🙏
🙏

3⃣ การให้เป้าโดยไม่ระบุราคาซื้อ ราคาขาย

ทำแบบนี้ จะทำให้เคลมได้เสมอ

สมมติ ขายไปที่ 2)

แม้ไม่ซื้อกลับก็ยังเคลมผลงานได้

บางคนซื้อกลับจริงๆ แล้วขายหมดที่ 4)
แต่บอก follower ว่า ขายครึ่งนึง

ก็ยังสามารถเคลม 5) ได้อยู่เลย

👉 influencer อาจจะขาย $0.5
แล้วถ้าเหรียญพุ่งไป $10
เขาก็ไม่ควรเคลมที่ $10

4⃣ การวิเคราะห์ราคาคลุมเครือ
ที่อ่านจบจนแล้วไม่แน่ใจว่าขึ้นหรือลง (ชี้2ทาง)

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวแอดเอง
(แอดไม่ได้เชื่อสายเทคนิคอลมากนักด้วย อาจจะเข้าใจไม่ถูก)

แต่ influe ที่ตีกราฟ และพูดคลุมเครือ
อ่านแล้วสรุปได้ว่าไม่ขึ้นก็ลง
สุดท้ายไม่มีวันผิดพลาด(winrate 100%)
แถมเคลมได้ 2 ทาง

มีคนมากมายที่ทายผิดว่าจะขึ้นหรือลง
สุดท้ายโดนล้อ(ต้องมีมั่งแหละ 5555)
แต่แอดก็ respect คนเหล่านี้มากกว่าคนที่พูดคลุมเครือ

ยิ่งบอกละเอียดมาก ก็มีโอกาสพลาดมาก
บางคนบอกจุดซื้อจุดขายเป็นวันที่ล่วงหน้าเลย

สุดท้ายเค้าอาจจะผิด แต่follower
ที่ตั้งใจ track จะรู้ winrate

5⃣ให้ราคาไว้ แต่สุดท้ายสถานการณ์เปลี่ยนไป ก็มีเหตุผลมาแถไปได้

เช่นตอนนี้ตลาด bull fdv ไปได้ $20b
ตอนนี้ bear เหลือ $1b พอ
👉 ตัวอย่างนี้ fundamental เหมือนเดิมเป๊ะ แค่ sentiment ตลาดเปลี่ยน
👉 ไม่ใช่ว่า project โดนแฮคหรืออะไร

ก็ต้องดูคำอธิบายว่าสมเหตุสมผลมั้ย

6⃣ แรงจูงใจไม่ตรงกัน [misaligned incentives ]

เช่น
- มีรายได้จากค่าโฆษณา
- รายได้จากการขายคอร์ส

รายได้ข้างบนจะไม่ตรงเป๊ะๆกับกำไรของ follower
ซึ่งมันก็อาจจะไม่ได้ผิดอะไร และบางครั้งก็ไปในแนวทางเดียวกัน

แต่จะต้องดูให้ดีๆ

ยกตัวอย่าง Moral hard
goldman sachs เอาเงินที่คนฝากธนาคารไปลงทุนเสี่ยงๆ
สุดท้ายเจ๊งขึ้นมา รัฐบาลอุ้ม

กรณีนี้ถ้า goldman sachs รู้อยู่แล้วว่าล้มแล้วจะมีรัฐอุ้ม
ก็อาจจะลงทุนเสี่ยงกว่าที่ควรจะเป็น

หรือกองทุนที่ได้โบนัส 10% ของกำไร แต่ถ้าขาดทุนไม่เสียอะไรเลย

อย่างเนื้อหาใน thread นี้ก็ใช่

ก็ประมาณนี้ ใครนึกออกจุดไหนอีก เสริมแอดได้นะครับ

ย้ำอีกที: บางคนมีพฤติกรรมตามที่แอดยกตัวอย่างไว้ เขาอาจทำด้วยเจตนาดีด้วยซ้ำ
แล้วก็มีเตือน nfa อยู่แล้ว 😇

👉 ที่แอดเขียนจากมาจาก influencer ต่างชาตินะ

ประเด็นสำคัญของ thread คือ
👉 follower มีสติตอนเห็น คำ "เคลม"
👉 influencer อาจจะปรับ content ได้ดีขึ้น

ทั้งหมดที่ว่ามามันยากที่จะทำตามนะ เช่น เคลมเป็น portfolio

influencer อาจจะต้อง ทำ port จำลอง ซึ่งมันอาจจะยากเกินไป

ตัวอย่างวิธีเคลมผลงานที่น่าสนใจ

เปิดเป๋าใหม่ บอก address ให้ follower รู้ แล้วก็ปั้นตามจริงโดยไม่ต้องเติม-ถอนเงิน

ก็จะวัดได้ง่าย ทำแบบนี้ เคลมทีใครก็เถียงไม่ได้
ใช้ประโยชน์จาก blockchain สร้างชื่อเสียงได้ดีเลย

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคร้าบ หากชอบสามารถ follow, subscribe, mint nft เลี้ยงกาแฟนาโนกันได้ครับ

ขอบคุณมากๆครับ @0x_nanobro @gadgeteerth

Loading...
highlight
Collect this post to permanently own it.
nanobro.eth logo
Subscribe to nanobro.eth and never miss a post.
#security#survival